NETFLIX
NETFLIX รีวิว Love Me Instead ดราม่าสายดาร์กประเทศตุรกีจากผู้กำกับ ปาฏิหาริย์คุกเลขลำดับ 7 (ไม่สปอยล์) Love Me Instead (แทนคำรัก) ภาพยนตร์ดราม่าสัญชาติประเทศตุรกีในเน็ตฟลิกซ์ ผลงานกำกับของ เมเม็ด อดา ออสเตกิน ผู้เคยฝากผลงานรีเมคภาพยนตร์ Miracle In Cell No.7 (ปาฏิหาริย์ห้องขังหมายเลข 7) ฉบับประเทศตุรกี จนกระทั่งทำเงินสูงสุดประจำปี 2019 ทำรายได้เฉพาะในประเทศตุรกีกว่า 15 ล้านเหรียญสหรัฐ และก็เขาก็กลับมาปฏิบัติงานถนัดของเขาอีกครั้งในปี 2021 กับภาพยนตร์ที่บอกกล่าวความเกี่ยวข้องอันน่าสังเวช…
Love Me Instead (แทนคำรัก)
ภาพยนตร์ดราม่าชนชาติประเทศตุรกีในอินเตอร์เน็ตฟลิกซ์ ผลงานกำกับของ เมเม็ด อดา ออสเตกิน ผู้เคยฝากผลงานรีเมคภาพยนตร์ Miracle In Cell No.7 (ปาฏิหาริย์กรงขังเลขลำดับ 7) ฉบับประเทศตุรกี จนทำเงินสูงสุดรายปี 2019 ทำรายได้เฉพาะในประเทศตุรกีกว่า 15 ล้านเหรียญสหรัฐ และก็เขาก็กลับมาปฏิบัติงานถนัดของเขาอีกครั้งในปี 2021 กับภาพยนตร์ที่บอกเล่าความเชื่อมโยงอันน่าสังเวช ระหว่างผู้คุมนักโทษกับนักโทษที่ถูกจับจับข้อหารุนแรงและได้รับการอนุญาตให้ปล่อยกลับสู่บ้านหนึ่งคืน พวกเขาได้พบเด็กหญิงผู้เป็นลูกของนักโทษ เพื่อนบ้านหญิงปริศนา รวมทั้งความลับที่สั่นหัวใจคนเป็นบิดาแบบที่คิดไม่ถึงด้วยความดราม่าสะท้อนสังคมแบบไม่มีกั๊กตลอดกว่าสองชั่วโมงให้ตับพังร้องไห้กันไปข้างนึงเลย
เซดัต ผู้คุมนักโทษที่กำลังจะใกล้เกษียณรับราชการได้รับการมอบอำนาจงานในที่สุดให้เดินทางไปดูแลผู้ต้องขังคดีฆาตกรรมคนหนึ่ง มูซา คนที่ถูกจับจับกว่าสิบปี เพราะเขาได้รับการอนุญาตให้เดินทางกลับบ้านเกิดหนึ่งวัน หนึ่งคืน ก่อนจะจำต้องกลับมารับโทษในตารางเหมือนเดิม ที่นั่นพวกเขาได้เจอกับ ยองจา บุตรสาวของมูซาที่ปัจจุบันนี้โตเป็นสาว และก็เข้าไปพัวพันกับแก๊งค้าสารเสพติด และทำให้เซดัตจะต้องถูกดึงเข้าไปพัวพันกับมูซาเพื่อป้องกันยองจาจากภัยร้ายที่เคยทำลายชีวิตของมูซามาก่อน แม้กระนั้นเมื่อเพื่อนบ้านหญิงเผยตัว
ความลับอันน่าปวดแล้วก็สะเทือนใจเกินกว่าจะรับไหวของมูซาก็ก่อให้เกิดผลเสียต่อความเกี่ยวข้องพ่อลูก รวมถึงความเกี่ยวข้องของเซดัตแล้วก็ลูกของเขาที่เริ่มมีเส้นแยกห่างกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกครั้ง เซดัตจะตัดสินใจช่วยเหลือมูซาคุ้มครองปกป้องข้อเท็จจริงอันเจ็บนี้ หรือจะทำตามอย่างหน้าที่ของการเป็นผู้คุมของตนเอง เส้นทางแห่งความรัก ความเศร้าใจ การหลอกลวงรวมทั้งความไม่ชอบจึงเริ่มต้นแล้วก็จบลงอย่างน่าเศร้าใจ
10 ซีรีส์ ที่น่าดูที่สุด เกิดชาตินี้จำเป็นต้องมองให้ได้!
เจอกับการเสนอแนะ 10 ซีรีส์จาก Netflix ที่น่าดูที่สุด พร้อมเรื่องย่อฉบับจิ๋วให้ท่านอ่านก่อนรับชม มีอีกทั้งซีรีส์ฝรั่งและก็ซีรีส์เกาหลีจาก Netflix ที่คัดเลือกมาแล้วว่าบันเทิงใจจริง แถมลุ้นจนกระทั่งมิได้หยุดพัก ไปตามเก็บให้ครบทุกเรื่อง แล้วจะทราบดีว่ามันดี (มิได้โอเวอร์)
สำหรับคนไหนที่กำลังหาซีรีส์ สนุกๆมอง พวกเราได้รวบรวมซีรีส์ ที่น่าดูที่สุดมาไว้ให้ที่นี่ ถ้าเกิดไม่ต้องการที่จะอยากพลาดสิ่งดีๆของโลกนี้ไป จำเป็นต้องมองให้ได้!
1. Prison Break
ซีรีส์ Netflix Prison Break รีวิวความน่าดู : เห็นด้วยว่า Prison Break เป็นซีรีส์ Netflix ที่ขึ้นหิ้งว่าน่ามองที่สุด กล่าวได้ว่าเป็นการแหกคุกที่มันที่สุดตั้งแต่เคยเห็นมา ไม่มองถือว่าเสียชาติเกิดขึ้นมาก คุณจะได้เห็นความฉลาดในการวางแผนแหกคุกที่ไม่มีผู้ใดเปรียบเทียบได้ของสกอฟิลด์ ซึ่งเป็นพระเอกของเรื่อง
เรื่องราว : เริ่มจากพี่ชายของผู้แสดงนำชายโดนป้ายความผิดว่าฆ่าน้องชายของรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จนถึงโดนโทษประหาร เขาจึงคิดแผนปล้นแบงค์เพื่อเข้าตารางไปช่วยพี่ชายหนีออกมา ด้วย IQ ที่สูงปรี๊ดกับอาชีพวิศวกรโครงสร้าง การจัดเตรียมของเขาก็เลยเริ่มที่สักพิมพ์เขียวของเรือนจำไว้บนร่างกาย โดยไม่มีผู้ใดมองออก นอกจากจะเป็นอัจฉริยะเช่นกัน
ความยาวของซีรีส์ : มีทั้งหมด 5 ซีซัน เห็นมากขนาดนี้ แม้กระนั้นทุก Ep. ไม่มีเบื่อเลย เชิญชวนติดตามทุกตอน รีบมอง! เนื่องจากแว่วๆมาว่า Netflix จะคัดออก ด้วยเหตุว่าซีรีส์นานมากแล้ว
2. Locke & Key
ซีรีส์ Locke & Key รีวิวความน่าดู : ชูให้ Locke & Key เป็นซีรีส์ ที่น่าดูอีกเรื่องหนึ่งเลย ปรับเปลี่ยนมาจากคอมมิก เวลานี้หลายคนอาจจะตั้งตารอซีซัน 2 กันแล้ว เพราะว่าเนื้อเรื่องนั้นเชิญชวนลุ้นและก็น่าติดตาม เนื้อหาโดยรวมจะเกี่ยวกับกุญแจวิเศษหลายดอก มีอีกทั้งกุญแจซึ่งสามารถพาไปไหนก็ได้ กุญแจที่สั่งให้คนทำอะไรก็ได้ กุญแจที่เข้าไปดูความทรงจำ สำหรับคนไหนกันแน่ที่ชอบการดำเนินเรื่องเร็วๆบางตอนบางครั้งก็อาจจะมองอืดไปนิด เพราะมีเรื่องความรักและก็ชีวิตของวัยรุ่นมาเข้าเกี่ยวข้องด้วย
เนื้อเรื่อง : เริ่มจากครอบครัว Locke ที่จะต้องเจอกับเรื่องเศร้ากระทั่งบิดาเสียชีวิต และจะต้องย้ายบ้านมาที่เชื้อสายฝั่งพ่อ ซึ่งบ้านข้างหลังนี้มีกุญแจซุกซ่อนเต็มไปหมด 1 ใน 3 พี่น้อง ซึ่งหมายถึง “โบดี้” น้องชายคนเล็กชอบได้ยินเสียงกุญแจกระซิบเรียกเสมอ ด้วยความที่เป็นเด็กฉลาด ฉลาด จึงรู้ดีว่าพลังของกุญแจแต่ละดอกสามารถที่จะนำมาทำอะไรได้บ้าง แม้กระนั้นมีกุญแจดอกหนึ่งที่ตัวร้ายกำลังตามหา โดยกุญแจนี้คงจะส่งผลให้เกิดบางสิ่งที่เธออยาก ความยาวของซีรีส์ : ซีซันแรกมีทั้งสิ้น 10 ตอน
3. Stranger Things
ซีรีส์ Stranger Things รีวิวความน่าดู : ตอนแรกก็กะว่าจะไม่มอง แต่พอดูแล้วสนุกมากมาย เนื้อเรื่องดำเนินเร็วทันใจมาก ลุ้นทุกตอน นับว่าเรื่องนี้เป็นซีรีส์ ที่ทำให้คนรู้จักเน็ตฟลิกซ์มากขึ้นเรื่อยๆเลยล่ะ แล้วก็ยังได้ผลงานชิ้นโบว์แดงอีกด้วย แถมเอฟเฟ็กต์ยังดีที่สุดจนกระทั่งจำต้องยกนิ้วให้ โดยรายละเอียดก็จะเกี่ยวกับเรื่องเหนือธรรมชาติที่มีตัวประหลาดจากโลกกลับหัวกลับหางโผล่มา จนสมาชิกในครอบครัวของกลุ่มเด็กๆจำเป็นต้องวุ่นวายเพื่อต่อสู้กับเหล่า Stranger Things
เนื้อเรื่อง : เรื่องราวเริ่มเมื่อ “วิล” หนึ่งในกลุ่มเด็กที่เผลอไผลในเรื่องราววิทยาศาสตร์ล่องหนไป สหายๆหลายท่านจึงช่วยกันตามหา จนถึงมาพบ “Eleven หรือ แอล” เด็กจากห้องแล็ปซึ่งมีพลังทำลายล้างสูง โดนจับมาทดลองเพื่อใช้เป็นอาวุธสู้กับศัตรู พลังของคุณสามารถสู้กับตัวประหลาดได้ และยังสามารถใช้คลื่นความถี่ดึงจิตของตัวเองเพื่อไปตามหาวิลว่าอยู่ที่ไหนได้อีกด้วย แม้กระนั้นเรื่องไม่ได้จบเพียงแค่นี้ เนื่องจากหลังจากวิลกลับมา เขาก็มีบางสิ่งแปรไป ความยาวของซีรีส์ : ซีรีส์มีทั้งหมด 3 ซีซัน มีต่อซีซัน 4 ด้วย น่าจะกำลังถ่ายทำ แม้กระนั้นมาติด Covid-19 เสียก่อน ได้มองอีกทีก็น่าจะนานเลยล่ะ
4. Sherlock
ซีรีส์ Sherlock รีวิวความน่าดู : Sherlock เป็นหนึ่งในซีรีส์ Netflix แนวสืบสวนที่พวกเรารู้จักกันดี ไม่ว่าจะทำออกมากี่เวอร์ชันก็ดีแล้วตลอด โดยเฉพาะเวอร์ชันที่เบเนดิกต์เล่นบทเป็นเชอร์ล็อก โฮล์ม บอกเลยว่าดูไปอึ้งไป คนอะไรมันจะฉลาดเป็นกรดได้ขนาดนี้ ให้เทียบกับสกอฟิลด์จาก Prison Break ก็เลือกผิดเหมือนกัน ชอบสังเกตดูสุด รู้กันดีสุด แต่ละตอนนี่ลุ้นระทึกมากว่าจะเป็นอย่างไรต่อ ดูเถิด จะได้ไม่พลาดสิ่งดีๆของโลกนี้ไป
เรื่องราว : เป็นการสืบเป็นคดีๆแต่คอนเฟิร์มว่าลุ้นทุก Ep. เชอร์ล็อกกับมอริอาตี้ชิงความเฉลียวฉลาดกันเก่งมากมาย ความยาวของซีรีส์ : มีทั้งปวง 4 ซีซัน แต่ว่าซีซันละ 3 – 4 ตอน เรื่องราวกระชับ ไม่ยาวมาก
เรื่องราวในหนังเป็นเส้นตรงแต่ว่ามีการตัดสลับระหว่างอดีตและก็เดี๋ยวนี้ที่ตัวละครนั้นเป็นผู้แทนสำหรับเพื่อการเล่าและก็แสดงภาพเหตุการณ์ในขณะนั้นให้มองเห็น หนังมีความเรียบตลอดทั้งเรื่องไม่ได้ พยายามบิ๊วให้ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างมองซึมเซา แม้กระนั้นก็รู้สึกถ่วง รวมทั้งอึนไปกับบรรยากาศของเรื่องที่ถ่ายทอดสังคมระหว่างคนทั่วไปกับคนทำผิด ซี่งถูกใช้แสดงภาพของเรื่องราวที่เกิดขึ้นเพียงคืนเดียว หนังจะโฟกัสไปที่ การให้ผู้แสดงทำอะไรไปเรื่อยเหมือนชีวิตประจำวันก่อนที่จะเบาๆยัดเยียดข้อหาไม่น่าไว้วางใจและก็ความสงสัยเข้ามาในฉากนั้นๆก่อนที่หนังจะหักมุมแบบที่ไม่คาดฝันมาก่อน ซึ่งหนังนั้นบางครั้งอาจจะหลอกเราได้ ถ้าเกิดเราไม่พิจารณาปฏิกิริยา ของตัวละครคงไม่รู้จักว่า ความจริงทั้งสิ้นมันเป็นแบบงี้
แต่ว่าเพียงพอหนังเฉลยนี้หนังก็ยิ่งเครียด และท้อแท้เข้าไปอีกว่าเพราะอะไรควรเป็นอย่างงี้ ใครหลายคนที่คาดหวังอารมณ์ที่หม่นเล็กๆบางทีก็อาจจะจำต้องช็อค เนื่องจากความเข้มข้นของเรื่องราวที่พุ่งไปเรื่อยก่อนที่จะพลุ่งพล่านในฉากสุดท้ายและผลสรุปอันน่าสงสารและก็เสียใจ แต่แทนที่ด้วยความคาดหมาย กล่าวได้ว่ามันเป็นดราม่าที่ผูกโยงคำว่าครอบครัวรวมทั้งสังคมเจริญมาก แม้ว่าทีแรกๆหนังจะค่อนข้างจะเรื่อยๆไปหน่อย กราฟจะมาพุ่งช่วงกึ่งกลางเรื่อง ซึ่งอาจจะเป็นผลให้รู้สึกเบื่อได้ถ้าหากไม่ได้อินอะไรมากสักเท่าไรนักกับความข้องเกี่ยวของผู้แสดงในเรื่อง ซึ่งก็แอบมึนงงแล้วก็ชักชวนงวยงงอยู่บางส่วน เนื่องจากว่าหากแม้หนังจะเนือย แต่ว่าก็ออกจะข้ามรายละเอียดไปเยอะแยะ