venom 2 hd
venom 2 hd ภาพยนต์ภาคนี้นั้นได้ผู้กำกับอย่าง Andy Serkis ตัวละครคนที่ถูก CG นั้นปกคลุมหน้า โดยเขาเป็นดาราที่สวมชุดเป็น Gollum ในรูปภาพยนตร์ชุด The Lord of The Rings และก็ ซีซ่าร์ ชิมแปนซีในรูปภาพยนต์เรื่อง Planet of The Apes ในปี 2011 โดยภาพยนต์ Venom: Let There Be Carnage นั้นอาจจะเป็นจุดเชื่อมโยงเข้าพบ จักรวาล MCU และ Mobius
โดยมี Daily Bugle แล้วก็ผู้แสดงตำรวจข้างในแบบอย่าง ที่อ่านหนังสือพิมพ์ที่มี Spiderman ปรากฏภายในหนังสือพิมพ์ ก็ต้อวมารอดูฝีมือการดูแล Andy Serkis และเรื่องราวของ Venom 2 Let There Be Carnage โดยคาดว่าจะเข้าฉายในวันที่ 17 ก.ย. 2021 นี้
เรื่องย่อ : Venom 2 Let There Be Carnage venom2 hd ศึกยักษ์แดงเดือด (2021) Venom 2 Let There Be Carnage เรื่องราวภายหลัง Venom ปรสิตต่างดาวมาสิงอยู่ในร่างของ Eddie Brock ซึ่งทำชีวิตเขาวุ่นวายอย่างยิ่ง ในครั้งนี้เขารวมทั้ง
เวน่อมจำเป็นที่จะต้องเผชิญกับความสยดสยองจากปรสิตต่างดาวอีกตัวที่ชื่อว่า Carnage ที่สิงอยู่ภายในร่างกายของคนร้ายโหด Cletus Kasady แต่ว่า Eddie Brock ยังคงดิ้นรนที่จะอยู่ร่วมกับ Venom จากต่างดาวที่ขยับรูปร่าง เมื่อ Cletus Kasady ฆาตกรโรคจิตที่คุ้มคลั่งเปลี่ยนเป็นโฮสต์ของเพื่อนมนุษย์ต่างดาว บร็อคแล้วก็เวนอมจำต้องทอดทิ้งความต่างเพื่อหยุดการครองราชย์ที่ความน่าสยองขวัญของเขาส่วนสำคัญของ
Venom: Let There Be Carnage จึงเป็นการหยิบเรื่องราวในภาคแรกมาต่อยอด
ให้ผู้ชมได้ไปติดตามความเชื่อมโยงของเอ็ดดี้และเวนอมที่เบาๆศึกษา ปรับพฤติกรรม และก็ทำความเข้าใจในกันและกัน มันบางครั้งอาจจะมิได้ถึงขั้นซาบซึ้งใจจนกระทั่งจะต้องเสียน้ำตา แต่ว่า Andy Serkis ก็พรีเซ็นท์เรื่องราวของทั้งคู่ออกมาได้อย่างสนุกสนาน
มีฉากให้ชวนหัวเราะรวมทั้งยิ้มไปกับพวกเขาได้ตลอด venom 2 hd ทางอีกหนึ่งข้อดีที่ภาพยนตร์พรีเซนเทชั่นออกมาเจริญเท่ากับภาคแรก เป็นการผลิตสรรค์ฉากแอ็กชันที่ดุเดือดเลือดพล่านสมกับชื่อภาษาไทยว่า ศึกอสูรแดงเดือด โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากเปิดตัวของคาร์เนจที่ทำให้ผู้ชมได้สัมผัสกับความร้ายกาจของมันได้เป็นอย่างดี รวมถึงฉากการเผชิญหน้ากันระหว่างเวนอมแล้วก็คาร์เนจในช่วงท้ายเรื่องก็รื้นเริงเชิญติดตามไม่แพ้กันอุ่นเครื่องก่อนไปมันส์
ฉากที่พิเศษที่ไม่มีในโรงของ Venom: Let there be Carnageใกล้เข้ามาทุกครั้งแล้วในการปะทะกันครั้งประวัติศาสตร์ของสองซิมบิโอตที่ป่าเถื่อนที่สุดจากจักรวาลภาพยนตร์ Sony ที่สม่ำเสมอมาจากเรื่อง Venom กับภาพยนตร์เรื่อง Venom: Let there be Carnage การฆ่าฟันครั้งนี้มีสาเหตุจากการที่คลีตัส ค้างซาดี้ ฆาตกรโรคจิตดันกินเลือดที่ผสมซิมบิโอตของเอ็ดดี้ บร็อกเข้าไป ทำให้เขาได้รับปรสิตสุดชั่วร้ายสีแดงฉานไปครอบครอง แม้กระนั้นดูเหมือนกับว่ามันจะไม่เชื่องกับเขาสักเท่าไร แล้วก็ดูจะโหดเหี้ยมกว่าตัวเวน่อม
ที่ดูเหมือนสุภาพกับเอ็ดดี้ไม่น้อย พิสูจน์ได้จากคลิปพิเศษจากฉากที่ถูกตัดไป ที่เปิดเผยมาโดย IGN จะเป็นอย่างไรคลิกภาพแล้วไปดูกันเลย
Venom: Let There Be Carnageถ้าหากภาคแรกเปรียบเหมือนคนโง่เขลาที่อุตสาหะประพฤติตัวอวดฉลาดด้วยการนั่งเต๊ะจุ้ยอยู่ในที่ประชุม ภาคสองก็เป็นคนเขลาที่ยอมรับในความโง่ของตน และก็ทำอะไรทึ่มๆออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่น่าหงุดหงิดรำคาญ หรือน่าหมันไส้เท่าภาคแรกว่ากันตามจริง คนเขียนนั้นมีประสบการณ์ที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่นักกับ Venom
ภาคแรกเมื่อปี 2018 ความเจ็บช้ำน้ำใจจากสิ่งที่คาดหวังขณะนั้นก่อให้เกิดเป็นอคติประเภทด่าทอไม่ฟังความคิดเห็นต่าง ทว่าเมื่อรู้ดีว่าคนที่มารับไม้ต่อดูแลหนังภาคนี้คือ แอนดี้ เซอร์คิส (กอลลัม ในไตรภาค Lord of the Ring รวมทั้งซีซาร์ ในไตรภาค Planet of the Apes) ทั้งยังยังได้ตัว โรเบิร์ต ริชาร์ดสัน ผู้กำกับภาพคู่บารมีของ เควนติเตียนน แทแรนติโน มาเกาะติดคู่ดูแลเรื่องงานภาพ ซึ่งแม้ พวกเราจะไม่หวังอะไรกับหนังหัวข้อนี้อีกแล้ว แต่จากรายนามคนเบื้องหลัง ขั้นต่ำเราก็คงจะชอบภาคนี้มากกว่าภาคแรกพอสมควรซึ่งก็เป็นไปตามตามคาด
การรู้ตัวว่าโง่ของหนังภาคนี้ทำให้ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างดำเนินไปได้เรื่อยไม่พีค หรือเล่นใหญ่เกินความสามารถ การดูแลของ แอนดี้ เซอร์คิส ทำให้หลายๆฉากดูบันเทิงใจรวมทั้งดูมีอะไรมากกว่าภาคแรกค่อนข้างจะมาก ยิ่งไปกว่านี้ การควบคุมภาพของ โรเบิร์ต ริชาร์ดสัน ยังส่งผลให้ฉากแอคชั่นในภาคนี้มองเข้าใจค่อนไปทางสนุกมากยิ่งกว่าภาคที่แล้วแบบเปรียบเทียบมองไม่เห็นฝุ่น
แต่ว่าอย่างที่พวกเรากล่าวไว้ในตอนแรก แม้ว่า Venom: Let There Be Carnage
จะมีลักษณะเด่นในทางของการนำเสนอเรื่องราวความเกี่ยวพันของเอ็ดดี้และก็เวนอม รวมทั้งฉากแอ็กชันที่บันเทิงใจ แม้กระนั้นจุดบกพร่องสำคัญข้อหนึ่งที่ทำให้ความโดดเด่นของภาพยนตร์ลดน้อยลงอย่างชัดเจน คือตัวร้ายหลักของเรื่องอย่างคลีตัส ที่แม้พวกเราลองตัดความร้ายกาจออกไป
คลีตัสแทบจะเป็นตัวร้ายที่ไม่มีความสะดุดตาให้เราจำเท่าไรนัก venom 2 hd กล่าวคือ ภาพยนตร์พาเราไปทำความรู้จักผู้แสดงคลีตัสแบบคร่าวๆไม่ได้พาพวกเราไปเจาะลึกถึงเรื่องราวมุมใดมุมหนึ่งของเขาเท่าไรนัก รวมทั้งบทบาทของคลีตัสที่ก็มิได้ทำให้เกิดผลกระทบต่อความเกี่ยวเนื่องของเอ็ดดี้แล้วก็เวนอมอย่างที่จะต้องเป็น มันก็เลยทำให้คลีตัสกลายเป็นตัวละครที่มิได้มีหน้าที่สำคัญไปกว่าการเป็นตัวร้ายที่ผู้แสดงนำชายจำต้องจัดการ ข้อความสำคัญลึกซึ้งอย่างการนำเสนอของสื่อ หรือเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กที่ถูกทรมานกรรม ก็ถูกสัมผัสเพียงผิวเผินผ่านคำกล่าว
ซึ่งเอาเข้าจริงก็ออกจะโชคร้ายที่ Venom ไม่อาจจะเป็นหนังวีรบุรุษ/คนร้ายสายมืดหม่นหมองได้ ในทางตรงกันข้าม สิ่งที่หนังให้ความเอาใจใส่เยอะที่สุดเห็นจะเป็น ความเกี่ยวข้องระหว่าง เอ็ดดี้ (ทอม ฮาร์ดี้) รวมทั้งเวน่อม ที่สาดความพ่อแง่แม่งอนใส่กันให้พอเพียงตลกโปกฮาน่ารักน่าชัง
เรื่องราวหลักในภาคนี้จึงไม่ใช่การต่อสู้กับฆาตกรโรคจิตระดับพระรอยดำ แต่เป็นการประคับประคองชีวิตของการการมีคู่ครองของ 1 มนุษย์ 1 เอเลี่ยนให้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง โดยมีสถานการณ์รอบกายเป็นบททดลองความเกี่ยวข้อง (หนังวีรบุรุษจริงๆนะ)ด้วยเหตุนี้เองหนังจึงไต่เส้นความขบขันแบบเสี่ยงตกไปยังความน่ารำคาญได้อย่างน่าหวาดกลัวอยู่หลายที แต่ว่าจนแล้วจนรอด การที่หนังยาวแค่ 1 ชั่วโมง 30 นาทีก็เห็นจะเป็นความพอดิบพอดีสำหรับผู้สร้างที่ทราบถึงสมรรถนะอันโง่เขลาเบาปัญญาที่ภาคแรกสร้างไว้ของหนังซึ่งตัวเองกำลังดูแลอยู่
Venom: Let There Be Carnage หรือชื่อไทยเป็น เวน่อม ศึกอสุรีแดงเดือด
ภาพยนตร์แอคชั่นแอนตี้วีรบุรุษตัวร้ายจากจักรวาลของสไปเดอร์แมน ที่หลายต่อผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยบางครั้งก็อาจจะเคยได้เห็นมาแล้วใน Spider-Man 3 (2007) โดยภาคนี้เป็นภาคต่อจากภาคแรกอย่าง Venom ที่ออกฉายไปเมื่อปี 2018 ภาคนี้ได้ “แอนดี้ เซอร์คิส”
ดาราหนังมากมายฝีมือจากมากมายภาพยนตร์ เช่น Black Panther, Star Wars, SAS: Red Notice และเขายังมีผลงานกำกับภาพยนตร์อย่าง Mowgli (2018) มานั่งแท่นผู้กำกับในภาคนี้เรื่องย่อในฐานะผู้รายงานข่าว เอ็ดดี้ บร็อค (ทอม ฮาร์ดี้) พากเพียรล้มคาร์ลตัน เดรค (ริซ อาห์เหม็ด) นักวิทยาศาสตร์โจษจันของหน่วยงาน Life Foundation มานานหลายปีแล้ว
มันเป็นความหมกมุ่นที่ทำให้หน้าที่การงานของเขารวมทั้งความเชื่อมโยงระหว่างเขากับแฟนสาว แอนน์ (มิเชลล์ วิลเลี่ยมส์) พังยับเยิน เวลาที่เอเลี่ยน หนึ่งสำหรับในการทดลองของเดรคประสานร่างกับเอ็ดดี้ ทำให้เขามีพลังพิเศษอันไม่น่าเชื่อ รวมทั้งจังหวะสำหรับการทำสิ่งต่างๆได้ดังที่เขาปรารถนา เวน่อม ผู้ที่มีจิตใจบิดเบี้ยว คาดเดามิได้
แล้วก็ถูกผลักดันด้วยแรงแค้น ทิ้งให้เอ็ดดี้ต้องยื้อแย่งเพื่อชิงอำนาจควบคุมความรู้ความเข้าใจแสนอันตรายที่เขาพบว่าน่าคลั่งไคล้แล้วก็เพิ่มพลังให้แก่เขา ขณะที่เอ็ดดี้และก็เวน่อมปรารถนากันและกันเพื่อได้สิ่งที่พวกเขาตามหา พวกเขาเริ่มขัดเกลาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกันเยอะ
ขึ้นในภาพรวมแล้ว Venom: Let There Be Carnage ยังคงอันแน่นไปด้วยความสนุกสนานในสไตล์ของภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ รวมทั้งเสริมด้วยการนำเราไปตรวจความสัมพันธ์ของเอ็ดดี้แล้วก็เวนอมให้มากขึ้นเรื่อยๆ แม้กระนั้นด้วยเหตุว่าการผลิตสรรค์ตัวร้ายหลักของเรื่องที่ขาดเสน่ห์ มันจึงนำมาซึ่งการทำให้พาร์ตเนื้อเรื่องดูขาดความน่าดึงดูดใจไปพอควร